บิ๊กโทนี่ย้ำห้ามประมาทอินโดฯมั่นใจช้างศึกเก็บ 3 แต้มได้แน่

"บิ๊กโทนี่" กิติศักดิ์ จำปาทิพย์พงศ์ ผู้อำนวยการทัพ "ช้างศึก" ทีมชาติไทย ย้ำลูกทีมห้ามประมาทอินโดนีเซียเด็ดขาด หวังกองเชียร์ชาวไทยเข้าชมเต็มความจุสนามราชมังคลาฯ มั่นใจแข้งช้างศึกศักยภาพเหนือกว่าพร้อมเก็บ 3 คะแนนเพื่อแฟนบอลชาวไทยแน่นอน

 ภายหลังจากเกมการแข่งขันในศึก "เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018" ของกลุ่ม บี นัดที่สอง จบลงไปเมื่อวันที่ 13 พ.ย.61 ที่ผ่านมา ซึ่งผลปรากฎว่า ทีมชาติอินโดนีเซีย ที่เล่นในบ้านโดนทาง ติมอร์-เลสเต นำไปก่อน 0-1 ก่อนจะรัว 3 ประตูพลิกกลับมาแซงเอาชนะ ติมอร์-เลสเต 3-1 เก็บ 3 คะแนนอันล้ำค่าได้สำเร็จ ก่อนจะบุกมาเยือนทัพช้างศึก ในวันเสาร์ที่ 17 พ.ย.61 นี้ ดูบอล ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก

    ล่าสุด ทาง "บิ๊กโทนี่" กิติศักดิ์ จำปาทิพย์พงศ์ ผู้อำนวยการทีมชาติไทย ได้ออกมาเปิดเผยผ่านทีมงานฟุตบอลสยามรายวันก่อนที่ทีมชาติไทย จะพบกับ อินโดนีเซียว่า "ผมได้มีการเข้าไปพูดคุยกับนักเตะหลังเกมอุ่นเครื่องที่เราเอาชนะ ม.เกษมบัณฑิต มา ผมพยายามไปกระตุ้นและถามความรู้สึกทุกคน เพื่อให้น้องๆได้ผ่อนคลาย และอย่างที่ผมได้เคยบอกไปก่อนหน้านี้แล้วว่า นักเตะของเราทุกคนมีความกระหายที่พร้อมจะลงเล่น เรามีความเชื่อมั่นทุกคน เพราะทุกคนนั้นอยากคว้าแชมป์รายการนี้ให้ได้เป็นอย่างมาก เพื่อแฟนบอลชาวไทยทุกคน"

"แน่นอนหลังจากที่เราดูเกมของอินโดนีเซียลงเล่นมาแล้ว 2 นัด โดยบนัดแรกบุกไปแพ้ สิงคโปร์ 0-1 และเกมล่าสุดเปิดบ้านชนะ ติมอร์-เลสเต 3-1 ซึ่งถ้าหากวัดความสามารถของขุมกำลังทั้งเราและเขา ผมคิดว่าเราเหนือกว่าอยู่มาก แต่อย่างไรเสียเราจะไม่ประมาทเด็ดขาด เพราะคู่แข่งทุกทีมก็จ้องจะล้มเราให้ได้อยู่แล้ว สิ่งสำคัญคือเล่นยังไงให้ประทับใจแฟนบอลชาวไทย และผมก็อยากเห็นกองเชียร์ของเราเข้าไปรับชมกันให้เต็มความจุของสนามราชมังคลาฯในเกมวันเสาร์ที่จะถึงนี้ เพราะจะช่วยให้นักเตะของเรามีกำลังใจในการเล่นมากขึ้นอย่างแน่นอน"

    สำหรับเกมการแข่งขันระหว่าง ทีมชาติไทย เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือน ทีมชาติอินโดนีเซีย จะแข่งขันในวันเสาร์ที่ 17 พ.ย.61 ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน เวลา 18.30 น. โดยประตูจะเปิดตั้งแต่เวลา 16.30 น. เป็นต้นไป ถ่ายทอดสดทางช่อง 7 เฮชดี

บีจี เอฟซี เปิดตัว "ฉัตรชัย"ร่วมทัพอย่างเป็นทางการ

หลังจากที่ "บิ๊กฮั่น"มิตติ ติยะไพรัช ประธานสิงห์ เชียงราย ยืนยันก่อนหน้านี้ว่าทีมได้ขาย ฉัตรชัย บุตรพรหม นายด่านทริปเปิ้ลแชมป์ 2018 ไปร่วมทีม บีจี เอฟซี เอฟซี น้องใหม่ในศึกไทยลีก 2 ฤดูกาล 2019 เป็นที่เรียบร้อย
     ล่าสุด เพจหลักของสโมสร บีจี เอฟซี ได้ทำการเปิดตัว ฉัตรชัย บุตรพรหม นายด่านดีกรีทีมชาติไทย เป็นที่เรียบร้อย คาดการณ์ว่าค่าตัวในการย้ายทีมครั้งนี้มีมูลค่าสูงถึง 10 ล้านบาท ซึ่งฉัตรชัย ยังมีสัญญาเหลือกับ สิงห์ เชียงรายฯ 2 ปี  อัพเดทข้อมูลทุกข่าวสาร

       สำหรับ ฉัตรชัย บุตรพรหม ประสบความสำเร็จอย่างมากมายกับกว่างโซ้งมหาภัย ตลอดการเฝ้าเสาทั้ง 2 ฤดูกาล ทั้งการคว้าแชมป์ ช้างเอฟเอคัพ 2 สมัย , แชมป์ลีกคัพ 1 สมัย และออมสินไทยแลนด์ แชมเปี้ยนคัพ 1 สมัย

บุสเกตส์ชี้ชัยชนะเหนือเรอัลมาดริดสุดยิ่งใหญ่

เซร์คิโอ บุสเกตส์ กองกลาง บาร์เซโลน่า ชี้ชัยชนเหนือ เรอัล มาดริด โดยปราศจาก ลิโอเนล เมสซี่ ยอดกองหน้า เป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ บอกทุกคนยกระดับการเล่นขึ้นมา พร้อมชี้ "เจ้าบุญทุ่ม" มีทีเด็ดจากจังหวะโต้กลับเร็ว

    เซร์คิโอ บุสเกตส์  มิดฟิลด์ตัวเก่ง "เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลน่า สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกลา ลีกา สเปน ออกมากล่าวเมื่อวันจันทร์ที่ 29 ตุลาคม ที่ผ่านมา ว่า เขาคิดว่าชัยชนะเหนือ "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด 5-1 ในศึกเอล กลาซิโก โดยไม่มี ลิโอเนล เมสซี่ ยอดหัวหอกกัปตันทีม ถือเป็นความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของต้นสังกัด

    เกมนี้ หลุยส์ ซัวเรซ โชว์ฟอร์มสุดยอดจัดการซัดแฮตทริก ช่วยให้ บาร์ซ่า เก็บ 3 คะแนนเต็มในเกมที่คัมป์ นู ถึงแม้ว่าต้องไร้ เมสซี่ ที่ได้รับบาดเจ็บแขนหักจนลงเล่นไม่ได้ก็ตาม ขณะที่ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ และ อาร์ตูโร่ วิดัล ก็ยิงประตูได้เช่นกันทำให้ ฆูเล็น โลเปเตกี เทรนเนอร์ เรอัล มาดริด ตกอยู่ภายใต้ความกดดันอย่างหนักในตอนนี้  โลกแห่งการตลาดดิจิทัล

"มันเป็นความสำเร็จที่ยอดเยี่ยมสำหรับชัยชนะ 5-1 โดยไม่มี เมสซี่ ปกติแล้วเวลาที่เราลำบาก ลีโอ คอยช่วยเรา แต่วันนี้ทีมยกระดับตัวเองขึ้นมา" บุสเกตส์ กล่าว

    มาร์เซโล่ มายิงประตูตีไข่แตกไล่มาเป็น 1-2 ในนาทีที่ 50 แต่หลังจากนั้น บาร์ซ่า ก็จัดการรัว 3 ประตูรวดใน 15 นาทีสุดท้าย และ บุสเกตส์ ก็ชี้ว่าเพื่อนร่วมทีมรู้ดีว่าพวกเขามีโอกาสเมื่อ เรอัล มาดริด พยายามหาทางกลับมาสู่เกม

    "เรารู้ว่าถ้าเราผ่านการไล่กดดันของพวกเขาไปได้ เราก็จะมีโอกาส และจากนั้นก็โต้กลับเร็วและประตูนั้นก็ทำให้เราเล่นได้สบายขึ้น" มิดฟิลด์ทีมชาติสเปน กล่าว

    สำหรับ บาร์ซ่า ปัจจุบันนำเป็นจ่าฝูงลา ลีกา เหนือกว่า เรอัล มาดริด อันดับ 9 อยู่ถึง 7 คะแนน

ยอดแข้งยุคนี้! บัลเบร์เด้ ซูฮก เมสซี่ หลังระเบิดแฮตทริคเยอะสุด ชปล.

เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ นายใหญ่ บาร์เซโลน่า ซูฮก ลิโอเนล เมสซี่ ว่าเป็นนักเตะชั้นยอดของยุคนี้ พร้อมชี้ ลูกแรกของ เมสซี่ ทำให้เกมเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

   
    เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ เทรนเนอร์ บาร์เซโลน่า สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งวงการ ลา ลีกา สเปน กล่าวยกย่อง ลิโอเนล เมสซี่ ดาวยิงคนเก่งของทีมว่าเป็นสุดยอดนักเตะแห่งยุคอย่างแท้จริง หลังจากที่ เมสซี่ เพิ่งทำแฮตทริกจนช่วยให้ทีมเปิดรัง คัมป์ นู เอาชนะ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น 4-0 ในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม บี เมื่อวันอังคารที่ 18 กันยายน ที่ผ่านมา

    3 ประตูของ เมสซี่ เกิดขึ้นในนาทีที่ 31, 77 กับ 87 ส่วนอีก 1 ลูกของ บาร์เซโลน่า มาจาก อุสมาน เดมเบเล่ ในนาทีที่ 74 โดยผลงานในครั้งนี้ทำให้ดาวเตะชาวอาร์เจนไตน์กลายเป็นคนที่ทำแฮตทริกได้เยอะที่สุดในศึก แชมเปี้ยนส์ ลีก แต่เพียงผู้เดียว ที่จำนวน 8 ครั้ง หลังจากก่อนหน้านี้ครองสถิติร่วมกับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ แข้งคนดังของ ยูเวนตุส

 "เมสซี่ ทำเรื่องอันสุดยอดขึ้นมาได้ โดยที่เขาทำให้มันดูเหมือนเป็นเรื่องปกติ เมื่อเขาเลิกเล่นแล้วนั้น มันก็จะเป็นงานยากมากๆ ที่จะหาคนอย่างเขาได้อีก การมีเขาอยู่ในทีมทำให้คุณโล่งอกสุดๆ และการที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับเขาก็ถือเป็นฝันร้ายอย่างแท้จริง"

    "วันนี้เขาทำได้ 3 ลูก แต่เกมมันเปิดกว้างขึ้นก็เพราะลูกแรกของเขา มันเป็นลูกฟรีคิกที่ยอดเยี่ยมมากๆ เราต้องคอยเตือนตัวเองว่าเรากำลังอยู่ในยุคที่พิเศษสุดๆ"

ขอบคุณข้อมูลจาก  www.siamsport.co.th

วิธีไหนดี! หาแผนช่วย โรนัลโด้ ระเบิดฟอร์มโหด

แน่นอนว่าการย้ายทีมที่ชวนฮือฮามากที่สุดในช่วงก่อนเปิดฤดูกาล 2018-19 คือการที่ ยูเวนตุส คว้าตัว คริสเตียโน่ โรนัลโด้ มาจาก เรอัล มาดริด ด้วยค่าตัวเบื้องต้นที่ 100 ล้านยูโร (ประมาณ 4,000 ล้านบาท) โดยมันถือเป็นค่าตัวการย้ายทีมสูงที่สุดในโลกสำหรับนักเตะอายุ 30 ปีขึ้นไปเลย

อย่างไรก็ตาม จนถึงตอนนี้ โรนัลโด้ ก็ยังทำผลงานได้ไม่ดีเท่าไหร่ หลังจากยังยิงประตูให้ทีมในเกมแบบเป็นทางการไม่ได้เลย แน่นอนว่าดาวเตะชาวโปรตุกีสอาจจะต้องใช้เวลาปรับตัวให้เข้ากับลีกสักหน่อย แต่ที่จริงยิ่งเขาทำประตูได้เร็วเท่าไหร่มันก็ยิ่งดีมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งการเปลี่ยนแผนการเล่นอาจจะพอช่วยได้ และเราจะมาลองวิเคราะห์แผน 2 แผนที่อาจจะเหมาะกับ โรนัลโด้ ในสีเสื้อของ "เบียงโคเนรี่" กัน

    : ระบบ 4-1-2-1-2

    โรนัลโด้ เป็นหนึ่งในกำลังสำคัญที่ช่วยให้ ซีเนดีน ซีดาน กุนซือชาวฝรั่งเศสพา เรอัล ได้แชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ไปครองถึง 3 ฤดูกาลหลังสุด และนั่นก็ส่งผลให้ ซีดาน ได้รับการยกย่องอย่างมาก

   ทั้งนี้ ในช่วง 2 ซีซั่นหลังสุดของเขากับ เรอัล นั้น ซีดาน เลือกใช้ระบบ 4-1-2-1-2 โดยที่ให้ อีสโก้ รับบทกองกลางตัวรุก พร้อมกับช่วยสร้างโอกาสทำประตูให้ โรนัลโด้ ไปด้วย โดยที่มี คาริม เบนเซม่า สร้างพื้นที่ให้ โรนัลโด้ เล่นได้แบบสบายๆ ส่วน มาร์เซโล่ ก็จะสร้างความปั่นป่วนตรงริมเส้นได้ แถมยังโยนบอลเข้าไปลุ้นในกรอบเขตโทษได้อีกต่างหาก

ถ้าเกิด มัสซิมิเลียโน่ อัลเลกรี สนใจจะใช้ระบบนี้นั้น เขาก็สามารถเอา มาริโอ มานด์ซูคิช มารับบทบาทแบบ เบนเซม่า ได้แบบสบายๆ ซึ่งรายของ มานด์ซูคิช จะสามารถเป็นประโยชน์ในลูกกลางอากาศได้ด้วย ขณะที่ แบลส มาตุยดี้ ก็จะสร้างเกมจากกลางสนามได้ และคนที่จะมีความสำคัญมากพอๆ กันคือ เปาโล ดีบาล่า นั่นเอง

    : ระบบ 4-4-2
    นอกจาก 4-1-2-1-2 แล้วนั้น ฤดูกาลก่อน ซีดาน ก็เคยลองใช้ระบบ 4-4-2 เหมือนกัน และมันก็ทำให้ เรอัล เล่นเกมบุกได้ดุดันขึ้นนิดหน่อย โดยตอนซีซั่นที่แล้ว ซีดาน สั่งการให้ มาร์โก อาเซนซิโอ กับ ลูคัส บาสเกซ มาช่วยเล่นเกมรับ ซึ่งทั้งคู่ก็ทำผลงานได้ดีแม้แต่ในเกมที่เจอกับทีมใหญ่ๆ และนั่นก็ส่งผลให้ โรนัลโด้ เล่นเกมบุกได้แบบเต็มที่

ขอบคุณข้อมูลจาก www.siamsport.co.th

แก้แค้นให้หน่อย! "ฮวน เอสตราด้า" ยื่นมือช่วย "อิราน ดิแอซ" ศึกชิงเข็มขัด "ศรีสะเกษ" พนันออนไลน์ฟรีเครดิต

ถือเป็นวิธียกระดับการซ้อมอย่างแท้จริงของ อิราน ดิแอซ (Iran Diaz) นักมวยแดนจังโก้ สำหรับไฟต์ชิงแชมป์โลกครั้งแรกในชีวิตของเขา

กำปั้นวัย 28 ปีจากรัฐโซโนร่า ประเทศเม็กซิโก ที่ตอนนี้พร้อมรับการช่วยเหลืออันเป็นประโยชน์ทุกอย่างจากเหล่าผู้หวังดีเพื่อเตรียมพร้อมขึ้นฟาดปากกับ ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น เจ้าของเข็มขัดแชมป์สภามวยโลก (WBC) รุ่นซูเปอร์ฟลายเวต ซึ่งทั้งคู่จะพบกันในฐานะคู่เอกของศึก ONE: KINGDOM OF HEROES ณ อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี ในวันที่ 6 ตุลาคมนี้

หลังจากก่อนหน้านี้ ตำนานมวยเม็กซิโกอย่าง ฮวน มานูเอล มาร์เกวซ (Juan Manuel Marquez) อดีตแชมป์โลกสี่รุ่น ได้เข้ามาช่วยแนะนำเตรียมความพร้อม ล่าสุด ฮวน ฟรานซิสโก้ เอสตราด้า (Juan Francisco Estrada) แชมป์องค์กรมวยโลก (WBO) รุ่นฟลายเวต ก็เป็นอีกคนที่เข้ามาช่วยเหลือ Diaz เรียบร้อย

"อย่างที่ผมเคยพูดก่อนหน้านี้ เรายินดีรับทุกการช่วยเหลือจากทุกฝ่ายเพื่อชัยชนะที่กรุงเทพฯในเดือนตุลาคมนี้ พวกเรารู้สึกยินดีที่ Juan Francisco Estrada เจียดเวลามาช่วย Iran ซ้อม" Ernesto Salgado เทรนเนอร์ของ Diaz กล่าว

ด้วยสถิติชนะ 36 แพ้ 3 ซึ่งเป็นการชนะน็อกถึง 25 ครั้ง ทำให้ Estrada ถือเป็นอีกหนึ่งยอดมวยของโลกในพิกัดรุ่นเล็ก เคียงข้างกับ Roman "Chocolatito" Gonzalez, Brian Viloria, Milan Melindo, Hernan "Tyson" Marquez และ Carlos Cuadras

นอกจากนี้ สำหรับ Estrada ยังถือว่าไม่ใช่คนแปลกหน้าของ ศรีสะเกษ แต่อย่างใด เมื่อทั้งคู่เคยขึ้นแลกหมัดกันมาแล้วสดๆร้อนๆเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งผลจบลงด้วยการที่แชมป์โลกชาวไทยรักษาเข็มขัดไว้ได้โดยการชนะคะแนนด้วยเสียงข้างมาก

"เขาได้ให้คำแนะนำเล็กๆน้อยๆว่า ศรีสะเกษ จะชกอย่างไร, รวมไปถึงการเคลื่อนไหว และกลยุทธ์ต่างๆบนเวที นี่เป็นการช่วยเหลือครั้งใหญ่ ที่เขาได้แบ่งปันข้อมูลของแชมป์ชาวไทยให้เราทราบ" Salgado กล่าวเพิ่ม พนันออนไลน์ฟรีเครดิต

สำหรับ Estrada เองมีโปรแกรมขึ้นสังเวียนอีกครั้งในวันที่ 8 กันยายนนี้ ณ อิงเกิลวู้ด, แคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ทำศึกสายเลือดกับกำปั้นร่วมชาติ Felipe Orucuta ดีกรีอดีตผู้ท้าชิงแชมป์โลกสองสมัย โดยผู้ชนะไฟต์นี้อาจจะได้สิทธิ์ท้าชิงเข็มขัดกับผู้ชนะของคู่ ศรีสะเกษ กับ Diaz ในอนาคตด้วย

ทั้งนี้ ศรีสะเกษ และ Diaz มีกำหนดให้สื่อมวลชนเข้าชมการฝึกซ้อมได้ในวันที่ 28 สิงหาคมนี้ที่ค่ายนครหลวงโปรโมชั่น

ประวัติของ มาร์โก้ อาร์เนาโตวิช

ชื่อเต็ม : มาร์โก้ อาร์เนาโตวิช
วันเกิด : 19 เมษายน 1989
อายุ : 25 ปี
เกิดที่ : โฟลริดส์ดอร์ฟ, เวียนนา, ออสเตรีย
สัญชาติ : ออสเตรีย
ส่วนสูง : 192 เซนติเมตร
ตำแหน่ง : กองหน้า/ปีก
สโมสร : สโต๊ค ซิตี้

เส้นทางการค้าแข้งในระดับสโมสร
เริ่มต้น

อาร์เนาโตวิช เริ่มอาชีพค้าแข้งพร้อมกับพี่ชาย ดานิเยล ที่สโมสรฟลอริดส์ดอร์เฟอร์ ในระดับเยาวชน จนในปี 1998 ก็ย้ายร่วมทีมออสเตรีย เวียน แต่ปัญหาเรื่องพฤติกรรม ทำให้เขาย้ายทีมอยู่บ่อยๆ จน 6 ปีถัดมา ก็ได้ย้ายไปเล่นกับเฟิร์สต์ เวียนนา เอฟซี 1984 ต่อด้วยออสเตรีย เวียน, ราปิด เวียน ก่อนย้ายกลับไปสโมสรบ้านเกิดอย่างฟลอริดส์ดอร์เฟอร์ จนโชว์ฟอร์มเตะตาทเวนเต้ จนเซ็นสัญญาไปร่วมทีมในปี 2006

ทเวนเต้ (2006-2010)

อาร์เนาโตวิช ซัดไป 22 ประตู จาก 24 เกม ให้กับทเวนเต้ ยู-19 ในซีซั่น 2007-08 ช่วยทีมคว้าแชมป์ลีกเยาวชน จากนั้นได้เลื่อนขั้นไปเล่นทีมสำรอง ยอง ทเวนเต้ ระหว่างปี 2006-2008 ลงสนาม 32 นัด ซัดไป 27 ประตู ได้ลงประเดิมสนามให้ทับทีมชุดใหญ่ครั้งแรกในซีซั่น 2006-07 โดยถูกเปลี่ยนตัวแทน เคนเนดี้ บาเคอร์ซิโอกลู ในเกมกับพีเอสวี เมื่อเดือนเมษายน 2007 และได้ขยายสัญญากับทีมเมื่อเดือนกรกฎาคม 2008 แม้จะได้รับความสนใจจากเฟเยนูร์ด

เขาเคยถูกตั้งข้อหาเหยี่ยดผิด อิบราฮิม คาร์กโบ ของวิลเลม ทเว เมื่อเดือนมีนาคม 2009 แต่หลังจากการสืบสวนของสมาคมฟุตบอลดัตช์ ไม่พบหลักฐานใดๆ ทำให้เขาพ้นผิดไป
อินเตอร์ มิลาน (ยืมตัว 2009-2010)

มีการพูดกันว่าอาร์เนาโตวิช เกือบได้ย้ายไปเล่นกับอินเตอร์ มิลาน เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2009 แต่ดีลก็ต้องล่มเนื่องจากเขามีอาการบาดเจ็บที่เท้าขวา ทำให้ต้องมีการเจรจากันใหม่ จนในวันที่ 6 สิงหาคม ทีการประกาศว่าทเวนเต้ได้ปล่อยอาร์เนาโตวิชให้ทีม "งูใหญ่" ยืมตัวตลอดซีซั่นเรียบร้อยแล้ว และจะเซ็นสัญญาถาวรได้หากลงเล่นครบจำนวนที่กำหนด หากไม่เป็นเช่นนั้น เขาจะกลับทเวนเต้ด้วยสัญญาสองปี มีออพชั่นขยายเป็นสามปีได้

อาร์เนาโตวิชลงประเดิมสนามนัดแรกในเกมที่บุกไปเอาชนะคิเอโว 1-0 เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2010 เกมถัดมา ลงสนามเป็นตัวสำรองแทนเดยัน สแตนโควิช ที่ได้รับบาดเจ็บ และยิงประตูช่วยทีมเอาชนะเซียนนาไป 4-3 จากนั้นก็ได้ลงสนามเรื่อยๆ จนกระทั่งตอนจบซีซั่น อินเตอร์ตัดสินใจไม่เซ็นสัญญาร่วมทีมถาวร โดยโจเซ่ มูรินโญ่ ผู้จัดการทีมในตอนนั้นเผยว่า "เขาเป็นคนที่น่าอัศจรรย์ แต่มีทัศนคติที่เหมือนเด็ก"
แวร์เดอร์ เบรเมน (2010-2013)

สโมสรชื่อดังแห่งประเทศเยอรมันอย่าง แวร์เดอร์ เบรเมน ยืนยันเซ็นสัญญาคว้าตัวอาร์เนาโตวิช จากทเวนเด้ ด้วยสัญญา 4 ปี เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2010 ยังไม่ทันได้ลงเล่นก็สร้างปัญหาให้กับทีมเสียแล้ว เมื่อเขาทำให้กัปตันทีมอย่างทอร์สเท่น ฟริงส์ เอือมระอาเป็นอย่างมาก จนตราหน้าว่าเขาเป็นเด็กจองหอง

อาร์เนาโตวิช ลงประเดิมสนามให้ "นกนางนวล" เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2010 ที่พ่านฮอฟเฟ่นไฮม์ ไป 1-4 เกมถัดมาก็ทำประตูแรกและประตูที่สองของตัวเองได้ พาทีมเอาชนะโคโลญจน์ จบซีซั่นซัดไป 5 ประตู จากการลงสนาม 34 นัด จากนั้นก็โชว์ฟอร์มดีเรื่อยมา จนเมื่อเดือนมีนาคม 2012 ได้รับบาดเจ็บหัวเข่าจนต้องพักถึง 2 เดือน ซึ่งไมได้มาจากการลงสนาม แต่เกิดขึ้นขณะที่เล่นกับสุนัขของเขา

แน่นอนว่าอยู่ที่ไหนก็ต้องมีเรื่องฉาว ในเดือนเมษายน 2013 อาร์เนาโตวิช และเพื่อนร่วมทีม เอลเยโร่ เอเลีย ถูกจับเนื่องจากขับรถเร็วเกินกำหนด และโดนแบนจากสโมสรด้วยกันทั้งคู่ เป็นเหตุให้เขาต้องย้ายทีม
สโต๊ค ซิตี้ (2013-ปัจจุบัน)

อาร์เนาโตวิช ย้ายซบสโต๊ค ซิตี้ ทีมดังในพรีเมียร์ ลีก เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2013 ด้วยสัญญา 4 ปี ค่าตัว 2 ล้านปอนด์ รับเสื้อหมายเลข 10 ของทีม ลงประเดิมสนามนัดแรกนับจากเซ็นสัญญา 12 วัน ในเกมที่เสมอกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0-0 ที่สนามบริแทนเนีย สเตเดี้ยม หลังใช้เวลาเพียงเดือนเดียว มาร์ค ฮิวจ์ส กุนซือของทีม เผยว่าอาร์เนาโตวิช ปรับตัวได้ดีกับลีกฟุตบอลอังกฤษ ประตูแรกของเขามาในวันที่ 26 ตุลาคม จากการซัดฟรีคิกระยะ 25 หลา ในเกมที่พ่ายแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2-3 จบซีซั่นยิงได้ 5 ประตู จากการลงสนาม 35 นัด
ทีมชาติ

เขาเริ่มรับใช้ชาติครั้งแรกกับทีมออสเตรีย ยู-19 ในศึกยูโร ยู-19 ปี 2007 ซึ่งถูกไล่ออกจากสนามในเกมที่สองของทัวร์นาเมนต์ และทีมของเขาก็กระเด็นตกรอบไป

หลังทำได้ 3 ประตูจาก 5 นัด ให้กับออสเตรีย ยู-21 อาร์เนาโตวิช ก็ได้รับคำชมจาก อันเดรียส เฮอร์ซ็อก ผู้จัดการทีม ว่าเป็นนักฟุตบอลชาวออสเตรียที่ดีที่สุดในรอบ 30 ปี

อาร์เนาโตวิช ประเดิมสนามนัดแรกให้ทีมชาติชุดใหญ่ เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2008 กับหมู่เกาะแฟโร ทำประตูแรกในนามทีมชาติได้ในเกมที่เอาชนะอาเซอร์ไบจานไป 3-0 ในวันที่ 8 ตุลาคม 2010

ในศึกยูโร 2016 รอบคัดเลือก อาร์เนาโตวิช ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงทั้ง 10 นัด ช่วยทีมเข้ารอบสุดท้ายได้สำเร็จ ยิงประตูได้ในเกมกับมอนเตเนโกร และในเกมที่เอาชนะลิคเตนสไตน์แบบไปกลับ
เกียรติประวัติ
อินเตอร์ มิลาน

- เซเรีย อา 2009-10
- โคปปา อิตาเลีย 2009-10
- ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2009-10